บางคนอาจสงสัยว่าทันตแพทย์อย่างผมมายุ่งอะไรกับเรื่องโหราศาสตร์ เพราะทันตแพทย์จะเรียนเกี่ยวกับเรื่องวิทยาศาสตร์ แต่โหราศาสตร์เป็นเรื่องที่หลายคนคิดว่าเป็นเรื่องลึกลับหรือบางคนอาจะบอกว่าเชื่อถือไม่ได้ เพราะบางคน ไม่จัดเป็นเรื่องวิทยาศาสตร์ แต่สำหรับผมซึ่งศึกษาโหราศาสตร์ในเชิงวิทยาศาสตร์ เพราะชอบพิสูจน์และทดสอบวิชาตลอดเวลาด้วยการทำนายและลงสนามจริงพบว่าเกิดผลตามการทดสอบถึง 80 -90 % |
แต่ไม่จำเป็นต้องเชื่อตามนะครับ เพราะอาจจัดเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ภาษาพระเรียกว่า “ปัจจัตตัง” คือรู้ได้เฉพาะตัวนั่นเอง จะไปพิสูจน์ได้ด้วยการเจอและสัมผัสได้ด้วยตัวเองเท่านั้น ยากที่จะให้ใครมาเชื่อตาม เพราะได้ประสบด้วยตัวเอง โหราศาสตร์ก็จะมีลักษณะเหมือนกันคือ นักโหราศาสตร์ที่เรียนมาด้วยหลักวิชาที่ถูกต้องก็จะมีประสบการณ์ในการทำนายทายทักว่ามีความแม่นยำเป็นอย่างไรเป็นต้น จึงเกิดความเชื่อและมีความเชื่อมั่นในสิ่งที่ตนศึกษาเช่นกัน
ผมเองที่มาสนใจในวิชานี้ก็อาจเรียกได้ว่าเป็นความบังเอิญ ถ้าเรียกตามสังคมคือบังเอิญ แต่สำหรับผม แล้วมันเป็นเพราะเรามีดวงที่ต้องมาศึกษาศาสตร์เหล่านี้อยู่แล้วหรือถูกกำหนดมาแล้วนั่นเอง
สมัยผมอายุ 13 ปี คือเมื่อประมาณ 35 ปีที่แล้ว(ปัจจุบันปีพ.ศ.2550) ตอนนั้นจำได้ว่าอยู่ชั้นประถมปีที่ 7 ( เทียบเท่า ม. 1 ) คุณพ่อหอบตำราเรียนโหราศาสตร์เล่มใหญ่มากเหมือน Text Book เข้าบ้านมา ผมก็เรียนถามคุณพ่อว่า นี่ตำราอะไรท่านก็บอกว่าตำราเรียนโหราศาสตร์ไทย ผมก็หัวเราะขำบอกคุณพ่อว่า โหราศาสตร์ไม่มีจริงหรอก เป็นศาสตร์ที่ไม่น่าเชื่อถือ เพราะไม่ใช่วิทยาศาสตร์ ( ซึ่งผมคิดเอง ณ เวลานั้น )
และผมบอกว่า ใครจะมารู้ชีิวิตของกันและกันได้ล่ะ ตัวเราเองเท่านั้นที่กำหนดชีวิต ไม่มีทางหรอกที่จะมีวิชาที่สามารถมากำหนดรู้ชีวิตของเราได้ คุณพ่อท่านไม่ว่าอะไรได้แต่ยิ้ม และบอกกับผมว่า โหราศาสตร์เป็นวิชาที่มีมาหลายพันปีแล้ว โดยเฉพาะเป็นวิชาคู่กับกษัตริย์และการปกครองมาตั้งแต่โบราณ ทั้งไทย อินเดียและในอีกหลายๆประเทศ แม้แต่ตั้งแต่สมัยเจ้าชายสิทธิทัตถะประสูติ ก็มีพราหณ์โหราจารย์ทำนายว่าได้เป็นพระพุทธเจ้า พระศาสดาเอกของโลกทีเดียว คุณพ่อว่าวิชานี้มีประโยชน์มากในอนาคต ผมควรลองศึกษาดูเพื่อพิสูจน์ ถ้าไม่จริงก็ทิ้งไป แต่คุณพ่อพูดให้ผมคิด โดยทิ้งท้ายว่า “แล้วถ้าศาสตร์นี้เป็นความจริงล่ะ มันก็จะดีสำหรับอนาคตของลูกนะ จะเป็นประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น” ผมก็เลยรับปากเรียนเพื่อพิสูจน์ ( ลองดีครับ ในใจคิดนะคับ แต่ไม่กล้าบอกคุณพ่อครับ ฮิๆ )
ผมตั้งใจเรียนมากเลยครับ เพราะต้องการลองดี เอ๊ยไม่ใช่ครับ ต้องการพิสูจน์ครับ มีเพื่อนคุณพ่อหลายคนแวะมาเยี่ยมคุณพ่อ ขอให้คุณพ่อดูดวงทำนายทายทัก ผมก็เลยมีโอกาสได้ทดสอบ ตัวอย่างชีวิตของแต่ละคนในแบบฉบับโหราศาสตร์ไทย ก็พบว่าสิ่งตำราได้เขียนเป็นกฎเกณ์ต่างๆ เกี่ยวกับชีวิตนั้นตามดวงดาวเป็นความจริงยิ่งทำให้ผมรู้สึกทึ่งมากๆเลย แบบไม่อยากเชื่อว่าอะไรทำไมถึงจริงได้ขนาดนี้เชียวหรือ
ตั้งแต่นั้นมาผมก็สนใจโหราศาสตร์มากเลยครับ พยายามขวนขวายหาตำราโบราณต่างๆ มาศึกษาเพิ่มเติมด้วยตัวเองและค้นคว้าอย่างสนใจจริงจัง ผมเองคงเป็นวัยรุ่นที่ตลกนะครับ เพราะเพื่อนๆจะสนใจเรื่องเกี่ยวกับว่าจะไปดูหนังฟังเพลงที่ไหนดี สนใจสาวๆ แต่ผมเองชอบไปร้านหนังสือที่ขายเกี่ยวกับโหราศาสตร์โดยเฉพาะ ( ร้านเกษมบรรณกิจอยู่แถวเวิ้งนครเกษม ) เอาเงินค่าขนมมาซื้อหนังสือโหราศาสตร์ไทยเหล่านี้เป็นวิชาการ และไปตามวัดที่มีพระอาจารย์ชื่อดังทางโหราศาสตร์ไปขอศึกษาเล่นเรียนกับท่านเหล่านั้น ยิ่งเรียนก็ยิ่งเชื่อและเชื่ือมั่นในโหราศาสตร์ไทยมากขึ้นๆจนในที่สุดได้พบกับเคล็ดลับวิชาโหราศาสตร์ไทยพาราณาสี ของอาจารย์ชาญ อินทรโชติ ซึ่งเป็นโหรหลวงในรัชกาลที่ 6 และเป็นศิษย์ของท่านอาจารย์ “อจุตตนันนัม” โหราจารย์แห่งกรุงพาราณาสี ซึ่งเป็นวิชาที่ถือว่าสุดยอดแขนงหนึ่งในวิชาโหราศาสตร์ในเวลานั้น โดยรัชกาลที่6 ได้ทรงโปรดให้ไปเรียนที่ประเทศอินเดียถึง 14 ปี
อาจารย์หมอพบว่า โหราศาสตร์ไทยพาราณสีประยุกต์ ที่อาจารย์หมอได้ประยุกต์โดยใช้หลักวิชาที่เฝ้าสังเกตและพิสูจน์มา จนเชื่อมั่นในหลักวิชาที่ได้ประมวลขึ้นมาเป็นหลักวิชาใหม่ บนรากฐานของโหราศาสตร์ไทย และโหราศาสตร์พารณสีนั้น ได้ก็ให้เกิดการก้าวกระโดดทางวิชาการสมัยใหม่อย่างมหัศจรรย์ ทำให้เกิดความแม่นยำสูงในการพยากรณ์อย่างเป็นไปเอง จึงมีความในใจอยากจะเผยแพร่ความรู้ต่างๆให้แก่บุคคลทั่วไป เพื่อการอนุรักษ์วิชาโหราศาสตร์ไทยพาราณสีประยุกต์ที่ได้ค้นคว้าและพัฒนามา เพื่อความสุขและเพิ่มพูนปัญญาให้แก่มนุษยชาติในโลกปัจจุบันและอนาคตต่อไป อย่างไม่มีวันสิ้นสลาย หรือสูญหายไป
****ประวัติศาสตร์โหราศาสตร์ไทยพาราณสีที่น่าสนใจ****คลิ๊ก (click)