.

ดวงศึกษาเรื่องของกรรมเก่า

โดยทันตแพทย์ธีระพันธ์  แสงไพบูลย์

มือถือ  0869916456

 

 

ดวงนี้เป็นดวงที่เพื่อนคนหนึ่งของผมคือ นาวาเอกวินัย ตะเภาพงษ์ มาปรึกษาว่าทำไมดวงนี้เจ็บป่วยหนักถึงป็นอัมพาตเคลื่อนไหวร่างกายไม่ได้ และพูดไม่ได้  มานานหลายปี เจ้าของชาตาเป็นผู้หญิง และมารดาของเจ้าชาตาซึ่งแก่มากแล้วอายุประมาณ 83 ปีต้องเลี้ยงดูเจ้าชาตาซึ่งนอนเจ็บป่วยเป็นอัมพาตมาโดยตลอด ด้วยความทรมานจิตใจอย่างมาก และเป็นห่วงว่าถ้าตนเองเกิดเสียชีวิตก่อนลูกสาวแล้วใครจะเลี้ยงดูลูกสาวคนนี้ที่ป่วยเป็นอัมพาต ขอนำเสนอดวงชาตาดังนี้

 

จะสังเกตได้ว่าดาว ๖ ๑ ๔ ๓ ๕ ๐ ลอยอยู่ภพวินาศลัคนา และดาว ๑ เจ้าเรือนตนุลัคน์เป็นมหาจักรวินาศและยิ่งประกอบกับเป็นทักษาวันเกิดด้วยแล้ว ( เพราะเกิดวันอาทิตย์ ) ยิ่งไม่ใช่สิ่งดีเลย โดยเฉพาะดาวตนุลัคน์ถ้าเป็นมหาจักรถ้าอยู่ในภพวินาศแล้วตามตำราโบราณว่าไว้ว่าถ้าเสียหายก็ยากที่จะแก้ไขได้ มักเสียไปเลย

คำว่า “วินาศ” หมายถึงเสียหาย เปลี่ยนแปลง แก้ไข เคลื่อนย้าย เจ็บป่วย หรือคุมขัง ฉะนั้น พอดาว ๖ ๑ ๔ ๓ ๕ ๐ อยู่วินาศก็พอจะบอกเป็นนัยๆได้ว่า ถ้ามีการเจ็บป่วยเกิดขึ้นก็น่าจะถึงขั้นล้มหมอนนอนเสื่อเหมือนถูกคุมขังเลย ก็คือป่วยเป็นอัมพาตเดินไม่ได้ พูดไม่ได้เลย เหมือนถูกคุมขังในคุกร่างกายนี้ โดยเฉพาะมีดาว ๐ ร่วมซึ่งเป็นเจ้าแห่งเภทภัยอันเร้นลับน่ากลัวแอบแฝงอยู่

 และถ้าดูตามแบบโหราศาสตร์พาราณสีแล้ว ตนุเกษตร # ซึ่งเป็นดาว ๒ อยู่ราศีมีนซึ่งเป็นภพมรณะทางลัคนา = ตนุเกษตร ต้องมรณะ และดาว ๕ เจ้าเรือนมรณะลัคนาราศีมีนไปอยู่ภพวินาศราศีกรกฎได้ตำแหน่งดาว ๕ อุจ ( ดาวอุจวินาศจะร้ายมาก ) สลับเรือนกับดาว ๒ เจ้าเรือนวินาศราศีกรกฎ ก็ยิ่งทำให้เกิดดาว ๕ และดาว ๒ มรณะและวินาศแลกเรือนกันเป็นอนุเกษตรยิ่งเพิ่มน้ำหนักความเสียหายอย่างใหญ่หลวงเลยทีเดียว คือเท่ากับ มรณะ + วินาศ ถ้าเสียหายหรือเจ็บป่วยแก้ไขคืนไม่ได้

 

ดาวที่เกี่ยวกับอัมพาตหรือระบบประสาททางสมองหรือการเคลื่อนไหวทางร่างกาย ก็คือดาว ๗ นั่นเอง จะเห็นว่าดาว ๗ นั้นเป็นเจ้าเรือนอริของลัคนา และได้ตำแหน่งอุจ ก็เท่ากับว่า ดาว ๗ อุจเป็นอริและอยู่ภพสหัสชะลัคนา (สหัชชะหมายถึงการเดินทางระยะใกล้ ก็สามารถตีความได้ว่าคือการเคลื่อนไหวร่างกายเช่น การยืน เดิน นั่ง เมื่อภพสหัชชะมีดาว ๗ อริอุจมาครองอยู่ ก็บ่งบอกถึงมีปัญหาในการเคลื่อนไหวร่างกายเพราะระบบประสาทสมองได้ด้วย ) และถ้านับจากทางตนุเกษตร # ก็จะพบว่าดาว ๗ อยู่ภพมรณะหรือเรือนมรณะจากตนุเกษตร # นั่นเอง ประกอบกับดาวเจ้าเรือนราศีตุลย์ที่ดาว ๗ อยู่ก็เป็นดาว ๖ และดาว ๖ ถ้านับตามทักษาก็เป็นกาลกิณี = ดาว ๗ อยู่ในเรือนดาว ๖ กาลกิณี ก็ทำให้ดาว ๗ อริอุจและเป็นมรณะตนุเกษตร # อยู่ในภาวะอันตรายยิ่งขึ้นไปอีกเป็นการเน้นย้ำว่า จะมีโรคทางระบบประสาททางสมองทำให้เคลื่อนไหวร่างกายไม่ได้หรือเป็นอัมพาตนั่นเอง 

 

 

***ข้อน่าสังเกตสำคัญ เจ้าชาตาเป็นอัมพาตตั้งแต่อายุ 23 ปีย่าง ถ้าดูแล้วจะพบว่าในโหราศาสตร์พาราณสี ดาวศุกร์ ๖ เสวยอายุ 19 -23 ปี และดาว ๖ เป็นเจ้าเรือนมรณะของตนุเกษตร # และเป็นดาวกาลกิณีตามทักษาวันเกิด เพราะเจ้าชาตาเกิดวันอาทิตย์ ดาวศุกร์ ๖ จึงเป็นกาลกิณีตามทักษาวันเกิด จึงส่งผลร้ายในช่วงอายุนี้เป็นต้นมา

 

 

ทำไมมารดาของเจ้าชาตาอายุมากถึง 83 ปียังต้องเลี้ยงเจ้าชาตาซึ่งเป็นอัมพาตซึ่งตอนนี้ก็อายุย่างเข้า 51 ปีแล้ว ถ้าดูจากดวงชาตา ก็จะพบว่าดาว ๒ # ตนุเกษตรมาจากภพปุตตะของตนุเกษตร และดาว ๕ เจ้าเรือนตนุของตนุเกษตรก็อยู่เรือนปุตตะ สลับเรือนกัน ดาว ๒ หมายถึงมารดา  และปุตตะหมายถึงการเลี้ยงดู การดูแลเอาใจใส่ หรือการพยาบาลคนเจ็บป่วย ก็ทำให้มารดาต้องดูแลและพยาบาลความเจ็บป่วยของบุตรสาวด้วยความทุกข์ทรมานใจอย่างแสนสาหัสเนื่องจากการสลับเรือนเป็นอนุเกษตรของดาว ๒ และดาว ๕     =          ตนุมรณะ + ปุตตะวินาศ    (ตนุเกษตรต้องมรณะลัคนา + ปุตตะตนุเกษตรต้องวินาศลัคนา )  โดยมีความหมายของดาว ๒ (มารดา ) เข้าไปเกี่ยวข้อง = มารดาต้องทุกข์ทรมานใจอย่างมากในการดูแลบุตรสาวที่นอนเจ็บป่วยเป็นอัมพาตอยู่อย่างไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดเมื่อไหร่

สำหรับการพยากรณ์นั้น ผมได้ตรวจดูก็พบว่าตอนนี้ ( พฤศจิกายน 48 ) เจ้าชาตาก็มีอายุได้ 51 ปีย่าง ก็ถ้านับอายุ 51 ปีย่างก็จะอยู่ที่ราศีตุลย์ น่าสังเกตว่ามีดาว ๗ อุจอริลอยอยู่และราศีตุลย์มีดาว ๖ กาลกิณีเป็นเจ้าของเรือนอยู่  บ่งบอกถึงอะไรบางอย่าง  และถ้าคำนวณหาตนุเกษตรจรแล้วพบว่าอยู่ที่ราศีมีนที่เดิมกับตนุเกษตรจร ทำให้อายุ 51 ปีย่างเป็นมรณะตนุเกษตรจรและเดิมร่วมกัน 

 

 

ตามตำราโหราศาสตร์พาราณสีว่า ถ้าปีใดอายุย่างเป็นมรณะตนุเกษตรจรปีนั้นให้ระวังเรื่องความเจ็บป่วยอาจทำให้เป็นหนักได้ ถ้าเจ็บป่วยน้อยก็จะกลายเป็นเจ็บป่วยมาก และถ้าเจ็บป่วยมากก็อาจถึงแก่อายุขัยได้ 

 

 

จากรูปข้างบน จะสังเกตว่า ดาว 5 จรเป็นดาวเจ้าเรือนตนุของตนุเกษตรราศีมีน โคจรอยู่ภพมรณะตนุเกษตรจร และมีอายุ 51 ปีย่างนับอยู่ตรงภพมรณะนั้นพอดี  ประกอบกับดาว 5 จรกระแทกกับดาว ๗ อุจอริเดิมในดวงชาตากำเนิด และดาว 5 จรอยู่ในเรือนดาว ๖ กาลกิณีเดิมด้วย = ตนุต้องมรณะ บ่งบอกถึงการป่วยหนักถึงขั้นร้ายแรงได้

 

 

 

และถ้านับตามทักษาแบบโหราศาสตร์ไทย จะพบว่า ดาว ๖ กาลกิณีเดิมเป็นศรีจร บ่งบอกว่า การเจ็บป่วยที่ต้องทนทุกข์ทรมาน จะถึงกาลสิ้นสุดลง ซึ่งมีแนวโน้มจะไปในทางพ้นทุกข์

 

 

 

 

ปีนักษัตรจรจะเปลี่ยนจากปีระกาจรที่อยู่ในราศีมังกร จะโคจรเป็นปีจอจรอยู่ราศีกุมภ์ ณ วันขึ้น ๑ค่ำเดือน ๕ ไทย คือวันที่ 29 มีนาคม 2549 ซึ่งปีจอจรอยู่ราศีกุมภ์ก็จะเป็นเจ้าเรือนวินาศและอริของตนุเกษตรจรราศีมีนด้วย  เราจะนับราศีสิงห์มีดาวราหู 8 เป็นดาวเกษตรจรด้วย ตามรูป  

 

ฉะนั้นเมื่อเปลี่ยนปีนักษัตรปีระกามาเป็นปีจอ ก็จะทำให้ราศีกุมภ์และราศีสิงห์เจ้าเรือนเกษตรจรของดาวราหู 8 มีอิทธิพลอำนาจ ก็เท่ากับว่า ดาว 8 วินาศและอริต้องตนุเกษตร และดาว 5 เจ้าเรือนตนุของตนุเกษตรจรก็จรต้องมรณะ ทับอายุย่าง 51 ปีภพมรณะอีกที เป็นยกกำลังสอง ฉะนั้นหลังวันที่ 29 มีนาคม 2549 ไปแล้วเป็นช่วงเฝ้าระวังเรื่องสุขภาพของเจ้าชาตา ว่ามีแนวโน้มจะมีอาการหนักขึ้นมากอย่างน่าเป็นห่วงทีเดียว และยิ่งถ้าช่วงดาวราหู 8 จรกำลังจะยกเปลี่ยนย้ายราศีจากราศีมีนเข้าราศีกุมภ์ในช่วง 29 กันยายน 2549 แล้วยิ่งน่าเป็นห่วงสุดๆเลยทีเดียว เหตุผลเพราะดาวราหู 8 มักมีพลังอำนาจในการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงเวลาจะเดินเปลี่ยนราศีโคจรโดยเฉพาะในทางร้าย

และถ้าเอาแบบพระเคราะห์เสวยอายุเข้าผสมทายก็จะพบว่า อายุ 51 ปีย่างอยู่ในช่วงพระเสาร์เสวยอายุ พระเสาร์เสวยอายุตั้ง 46 – 56 ปี และพระศุกร์แทรก 1 ปี 11 เดือน 15 วันเริ่มตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม 48 จะสังเกตว่าดาวเสาร์ ๗ เดิมเป็นดาวอริของลัคนา  และดาวศุกร์ ๖ เป็นดาวกาลกิณีเดิมกำลังแทรกอายุจรอยู่พอดีและเป็นดาวลอยในภพวินาศของลัคนาเดิมเสียด้วย ยิ่งเป็นการคล้องจองของกฏเกณฑ์แบบไม่น่าเชื่อทีเดียว ก็ขอฝากให้เพื่อนสมาชิกช่วยกันค้นคว้าและสืบต่อ เพื่อความกว้าหน้าของวิชาโหราศาสตร์ของเมืองไทยเพื่อเป็นประโยชน์ต่ออนุชนในรุ่นหลังๆต่อไป อีกทั้งเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติบ้านเมืองและสังคมต่อไปในอนาคต

 

สำหรับใครที่สนใจจะปรึกษาปัญหาชีวิต ก็สามารถติดต่อหมอได้โดยคลิ๊ก (click)

    สนใจสั่งซื้อโปรแกรมผูกดวงชะตาโหราศาสตร์ไทยพาราณสี *** คลิ๊ก (click)